วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประเทศโปรตุเกส




ประเทศโปรตุเกส




ชื่อทางการ  สาธารณรัฐโปรตุเกส ( República Portuguesa)
พรมแดน  ติดกับประเทศสเปนในทางทิศเหนือและทิศตะวันออก และอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกในทางทิศตะวันตกและทิศใต้
ภูมิประเทศ  ทางภาคเหนือของโปรตุเกสประกอบด้วยเทือกเขา ที่ราบสูง และ หุบเขาที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งปกคลุมพื้นที่ราว 1 ใน 3 ของประเทศ บริเวณภาคตะวันตกและภาคใต้ภูมิประเทศเป็นเนินเขาเตี้ยๆ และที่ราบต่ำ ต่อด้วยที่ราบชายฝั่งกว้างใหญ่แล้วค่อยๆลาดลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก แม่น้ำที่สำคัญของโปรตุเกสได้แก่ แม่น้ำโดอุโร (Douro) แม่น้ำกวาเดียน่า (Guadiana) และแม่น้ำเทกัส (Tagus)
ภาษาทางการ  ภาษาโปรตุเกส
ระบบการปกครอง  ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรง
เมืองหลวง  ลิสบอน
เมืองสำคัญอื่นๆ  ปอร์โต (Porto) โคอิมบรา (Coimbra) เซตูบาล (Satubal) ฟาโร (Faro)

พื้นที่  รวม  92,391 ตร.กม.
สกุลเงิน  ยูโร (€,EUR) โดย 1 EUR ประมาณ 40 บาท
ประชากร  ประมาณ 11 ล้านคน
รหัสโทรศัพท์  351





โปรตุเกส ( Portugal) หรือ สาธารณรัฐโปรตุเกส ( República Portuguesa) ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรไอบีเรียทางตอนใต้ของทวีปยุโรป โปรตุเกสมีพรมแดนติดกับประเทศสเปนในทางทิศเหนือและทิศตะวันออก และอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกในทางทิศตะวันตกและทิศใต้ นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยหมู่เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรแอตแลนติก อาทิ อะซูรึส (Azores หรือ Açores) เกาะมาเดราและโปร์ตูซันตู และหมู่เกาะซาเวจ 


โปรตุเกสเป็นประเทศเล็กๆ มีพลเมืองไม่มาก และมีเศรษฐกิจที่ไม่ใหญ่โตเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยทั่วไปในสหภาพยุโรป

มีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่  กล่าวคือเป็นประเทศยุโรปแห่งแรก ที่ส่งกองเรือเดินทางสำรวจทางทะเล เพื่อค้นหาดินแดนใหม่ๆ ที่ชาวยุโรปในยุคนั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยการสนับสนุนทุนทรัพย์อย่างแข็งขันโดยราชสำนักโปรตุเกส

โปรตุเกสเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมแตกต่างกันในช่วง 3,500 ปีที่ผ่านมา ทั้งอารยธรรมของชาวไอบีเรีย (Iberians) ชาวเซลต์ (Celts) ชาวฟีนีเชีย (Phoenicians) ชาวคาร์เทจ (Carthaginians) ชาวกรีก (Greeks) ชาวโรมัน (Romans) ชาวเผ่าเยอรมัน (Germanic tribes people) และอาหรับ (Arabians)

ชาวโรมันเรียก"โปรตุเกส" ว่า "Portus Cale" อาจมาจากการผสมคำระหว่างภาษากรีก และภาษาละติน หมายความว่า "ท่าเรือที่สวยงาม" ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15- 16 โปรตุเกส คือ ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรม กระจายไปทั่วโลก

หลังจากประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ พัฒนาขึ้นอำนาจของโปรตุเกสก็เสื่อมถอย
โปรตุเกสเป็นประเทศที่เก่าแก่มากชาติหนึ่งในสหภาพยุโรป และเป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ชาติไทยของเรามาเนิ่นนานนับหลายร้อยปี  โดยชื่อโปรตุเกสนั้น เป็นชื่อที่ชาวโรมันตั้งให้ว่า Portus Cale ซึ่งมีความหมายว่า "ท่าเรือที่สวยงาม" จึงไม่น่าแปลกใจที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากต่างเดินทางไปยังดินแดนแห่งนี้ ด้วยเพราะโปรตุเกสเป็นประเทศที่สวยงาม มีอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวไม่หนาวจัด ทางภาคใต้ของโปรตุเกสมีอากาศอบอุ่นตลอดปี นอกจากนี้การเดินทางยังมีความสะดวกสบาย  การบริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถราง รถไฟใต้ดิน หรือรถแท็กซี่ มีอย่างแพร่หลายและค่อนข้างจะทั่วถึง ค่าครองชีพเมื่อเทียบกับยุโรปด้วยกันแล้วก็ไม่สูง คือราคาอาหารมือหนึ่งตกอยู่ที่ประมาณ 260 บาท น้ำดื่มขวดเล็กตกอยู่ที่ประมาณ 30 บาท ค่าตั๋วรถโดยสารอยู่ที่ประมาณ 50 บาท

ภูมิประเทศ

               ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป บนคาบสมุทรไอบีเรีย ทิศตะวันตกและทิศใต้ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก โปรตุเกสนับเป็นประเทศที่อยู่ทางทิศตะวันตกสุดของภาคพื้นทวีปยุโรป โดยจุดตะวันตกที่สุดของประเทศ คือ พื้นที่บริเวณแหลมโรก้า (Cabo da Roca) ส่วนทางทิศเหนือและทิศตะวันออกมีพรมแดนติดกับส่วนตะวันตกของประเทศสเปน นอกจากนี้ ประเทศโปรตุเกสยังมีดินแดนภาคพื้นสมุทรซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโปรตุเกส นั่นคือ หมู่เกาะมาไดย์ร่า (Madeira) และหมู่เกาะอะซอรึช (Açores) ในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งทั้งสองเกาะนี้เป็นเขตการปกครองตนเอง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโปรตุเกส

สภาพอากาศในโปรตุเกส
อุณหภูมิสูงสุดเกิดขึ้นในภูมิภาค Alentejo ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือโปรตุเกสที่ลมจากทะเลที่ไม่เย็นเช่นใน Algarve ในที่อุณหภูมิน้ำทะเลแอลจะสูงกว่าบนชายฝั่งตะวันตก
ฤดูหนาวอากาศจะอ่อนด้วยอุณหภูมิ : อุณหภูมิเฉลี่ยในปอร์โตเป็น 10 ° C ในลิสบอน, อุณหภูมิของอากาศเฉลี่ย 12 ° C ที่ระดับน้ำทะเลและไม่ค่อยถึงจุดแข็ง ฤดูหนาวใน Algarve จะอ่อนมากกับอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 ° C และปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญในภาคเหนือ
ฝนมากที่สุดในโปรตุเกสมาจากพฤศจิกายน-มีนาคม พายุเฮอริเคนจะหายากในโปรตุเกสมีข้อยกเว้นของพื้นที่ภูเขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและในภูเขาที่สูงที่สุดของโปรตุเกสที่ Serra da Estrela
ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่มีความสวยงามและอากาศสบายกับเวลาที่เหมาะที่จะเยี่ยมชมและการเดินทางภายในประเทศคือ ฝนฟ้าคะนองที่อาจเกิดขึ้นจะไม่หนักเกินไปและมักจะไม่นาน
เดือนที่ร้อนและร้อนมากที่สุดคือ : เมษายน-พฤษภาคม -- มิถุนายน -- กรกฎาคม - สิงหาคม -- กันยายน -- ตุลาคม



สถาปัตยกรรม

Mosteiro dos Jeronimos




ตั้งอยู่ในเขตเบเลม สถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ (Manuelline)ซึ่งเป็นศิลปะกอธิคในสไตล์โปรตุเกสที่ได้รับอิทธิพลมา

จากต่างประเทศ  มีลวดลายที่สวยงามของซุ้มประตู หน้าต่างและหัวเสา มีการดัดแปลงมาจากพืชน้ำ เปลือกหอย และ เชือกสมอเรือ ฯลฯ ใช้เวลาสร้างนานถึง 70 ปี โดยองค์การยูเนสโกของสหประชาชาติได้ขึ้นทะเบียนให้อารามหลวงแห่ง

นี้เป็นมรดกโลกด้วย


หอคอยแห่งเบเลม (Torre de Belem)




 หอคอยแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง แต่ก่อนเคยมีหน้าที่เป็นประภาคารและเป็นป้อมปราการที่คอยปกป้องเขตเบเลม เนื่องจากบริเวณใกล้ๆกันจะมีสิ่งก่อสร้างสำคัญมากมาย ทั้งพระราชวัง อารามหลวง และอื่นๆ ตอนที่เริ่มสร้างใหม่ๆ  หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในระหว่างปี 1515-1521 โดยได้รับอิทธิพลจากแขกมัวร์ และมีส่วนผสมของศิลปะเรอเนสซองซ์

พระราชวังซิงตร้า
ผสมผสานด้วยศิลปะหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ปลายศตวรรษที่14จนถึงต้นศตวรรษที่16จุดเด่นของการตกแต่งภายในคือศิลปะแบบอะซูเรจู(Azureju)ที่ห้องโถงอาราเบียน หรือห้องอาหารมีการจัดแสดงหีบบรรจุกระสุนที่มีภาพวาดสรรพาวุธของผู้ที่มีชื่อเสียงในสมัยด้วยโคมระย้าฝีมือช่างสกุลเวเนเชียน(Venetian)ชั้นเลิศ

อารามนิกายโดมินิกัน (Dominican) แห่งบาตานญา (Batalha) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของชาวโปรตุเกสที่มีต่อชาวคาสตีย์ (Castilians) ในสงครามอัลชูบาร์โรตา (Aljubarrota) ในคริสต์ศักราช ๑๓๘๕ (พุทธศักราช ๑๙๒๘) อารามแห่งนี้เป็นโครงการก่อสร้างหลักของสถาบันกษัตริย์ของโปรตุเกสตลอดช่วง ๒ ศตวรรษต่อมา ณ สถานที่นี้ รูปแบบประจำชาติของโปรตุเกสที่มีความเป็นตัวตนที่แท้จริงได้ วิวัฒน์ขึ้น ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากศิลปะมานูเอลีน (Manueline art) ดังเห็นได้จากส่วนรอยัล คลอยสเตอร์ 




เพิ่มเติม



ศิลปะการตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องดินเผา(Azurejo)
แบบโปรตุเกส ซึ่งนิยมกันมากในศิลปะแบบรอคโกโกลวดลายช่อดอกไม้ในแจกันปากกว้างบนกระเบื้องดินเผาเคลือบกรุผนังชั้นล่างของจวน เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสุขและชื่นชมยินดี

ลวดลายใบไม้และช่อดอกแบบฝรั่ง



บานประตูไม้แกะสลักเป็นรูปทวารบาลทหารโปรตุเกสของเก่าน่าจทำขึ้นในช่วงเดียวกับที่ได้รับพระราชทานที่ดินให้สร้างจวนกงศุลโปรตุเกสประมาณรัชกาลที่2



อาหาร
ร้าน Antiga Confeitaria de Belem





เป็นร้านกาแฟที่เก่าแก่ของประเทศโปรตุเกสในกรุงลิสบอน เปิดทำการตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 17 จุดเด่นของร้านนี้จะเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้าด้วยถ้วยกาแฟกระเบื้องสีน้ำเงินและขาวแบบโบราณ โดยโปรตุเกสเป็นแหล่งค้ากาแฟระหว่างยุโรปกับประเทศในแถบลาตินอเมริกามาเป็นเวลาหลายร้อยปี และเมื่อจิบกาแฟแล้วต้องทานขนมพื้นเมืองคือ คัสตาร์ตทาร์ต ด้วย

อาหารโปรตุเกส ได้ชื่อว่ามีรสชาติอร่อยถูกปากที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรปซึ่งนิยมบริโภคปลาเป็นอาหารหลัก อาหารขึ้นชื่อของประเทศนี้คือ บาคัลเยา (Bacalhau) หรือ ปลาคอดดองเกลือ นอกจากนี้หลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า ประเทศโปรตุเกสเป็นผู้เข้ามาถ่ายทอดวิธีทำขนมหวานให้กับบรรพบุรุษของไทย จนได้ประยุกต์เป็นขนมหวาน เช่นพวกทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ดังนั้นเมื่อได้ไปโปรตุเกสก็ควรไปชิมของหวานของโปรตุเกส เช่น Pastel de Mata และ Ovos Moles เป็นต้น


ของที่ระลึก



ไก่ไม้ จากโปรตุเกส 
               ไปร้านขายของที่ระลึกที่ไหนก็เห็นแต่ไก่นี้เต็มไปหมด ที่มาก็มาจากตำนาน ไก่แห่งเมือง Barcelos
 ตำนานเล่าว่า วันหนึ่งเศรษฐีเมือง Barcelos เชิญแขกเหรื่อมางานเลี้ยงที่บ้านตัวเอง หลังจากจบงาน พบว่า ช้อนเงินที่ใช้ในงานหายไป หาคนขโมยไม่ได้ เศรษฐีก็หาแพะรับผิดได้หนึ่งคน แล้วก็เอาตัวส่งศาล ในศาล ผู้ต้องหาแพะก็ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ศาลก็ไม่เชื่อ ผู้ต้องหาชี้ไปที่ไก่ตัวนึง แล้วบอกว่า ถ้าบริสุทธิ์จริง ก็ให้ไก่ตัวนั้น ขันสามที ว่าจบแล้ว ไก่ตัวนั้น ก็ขันขึ้นมาสามที จริงๆ เป็นอันว่า ศาลก็ต้องยอมปล่อยผู้ต้องหานั้นแต่โดยดี




World Plus Tour Co., LTD
 8/29 ถ.สุคนธสวัสดิ์ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230 Tel : 02-542-3900 Fax : 02-542-3911
Website :
www.worldplustour.com  E-mail : info@worldplustour.com
สเปน - โปรตุเกส 10 วัน 7 คืน (TG)
ราคา 109,900.- บาท